Saturday 29 October 2011

สวยแบบฉบับของฉัน…ใครจะทำไม!!


          พูดถึงเรื่องความสวยความงามคงไม่มีสาวๆคนไหนปฏิเสธที่จะไม่อยากมีผิวพรรณที่ผุดผ่องเป็นยองใย(เค้าว่ากันว่างั้นนะ) หน้าใสไร้สิว (อ๊ะ อันนี้เหมือนสาว15ยกๆ16หย่อนๆ ฮิฮิ ) แก้มระเรื่อสีแดงฝาด (หนูไม่ได้ไปให้ใครมาตบหน้านะค๊า เหอะๆ) ปากแดงอมชมพูหน่อยๆ(เหมือนเด็กทารกแรกเกิด นี่ก็เว่อร์ไปนั่น ) เอาละดังนั้นถึงเวลาปรนนิบัติตัวเองกันแล้วสาวๆ(ทั้งสาวแท้และสาวเทียมทั้งหลาย ^0^) เคล็ดลับดีๆที่ควรบอกต่อ ไม่อันตรายแถมประหยัดอีกตะหากนะจ๊ะ
         เริ่มแรกต้องบอกตรงๆว่า ไม่มียาวิเศษตัวใด(จริงจริ๊งงงนะ ไม่มีจริงจริ๊ง confirmเลยจ้า อย่าไปหลงเชื่อคำโฆษณามากนะจ๊ะสาวๆ ) ที่จะทำให้ผิวธรรมชาติที่พ่อกับแม่ให้มาจะขาวผุดผ่องอย่างกับสาวเกาหลีหรอกนะจ๊ะ (ที่ยกตัวอย่าง สาวเกาหลี เพราะตอนนี้อะไรอะไรก็เกาหลีไปหมดแล้วจ้า แม้แต่คนเขียนยังแอบหลงไปกับเขา ห้าๆ ^0^*) เพราะพื้นฐานผิวของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน เม็ดสีเมลานีนของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ยีนเด่นยีนด้อยของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน จะให้เราไปเหมือนอีกคนคงไม่ได้หรอกนะจ๊ะ  แต่เราสามารถที่จะทำให้ตัวเองดูดีขึ้นได้ในฉบับของเราเอง (สวยแบบฉบับของฉันใครจะทำไม เอ้อออ )          

          ผิวหน้า
          เริ่มแรกต้องประเมินก่อนว่าเรานั้นเป็นคนที่มีสภาพผิวอย่างไร เป็นสาวหน้ามัน หน้าแห้ง หน้าผสม รึดันโชคดี(โชคดีจริงๆด้วยง่ะ) ดันเกิดมามีผิวหน้าที่พอดี ไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น (คนเขียนแอบอิจฉา แง่มๆ >///<) เมื่อเราประเมินได้แล้วว่าเรามีผิวสภาพหน้าเป็นอย่างไร คราวนี้ขึ้นต่อไปคือ การเลือกเครื่องปรนนิบัติผิวทั้งหลายแหล่ให้เข้ากับสภาพผิวของตัวเราเอง

Cleansing
          สาวผิวมัน ควรใช้ สบู่หรือโฟมล้างหน้าอ่อนๆหรือแบบเจลไร้ฟองเพื่อลดการละคายเคือง
สาวผิวแห้ง ควรใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรส์เซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ควรหลีกเลี่ยงการเช็ดหน้าด้วยโลชั่นเช็ดผิวนะจ๊ะ (เพราะมันจะเพิ่มให้หน้าแห้งผากของเรา ยิ่งผาก ผาก ผากและผากกไปใหญ่)
สาวผิวผสมและผิวหน้าพอดี เลือกใช้อะไรก็ได้จ้า ขอแค่หน้าสะอาดก็พอ เหอะๆ แต่อย่าลืมที่จะมีมอยเจอร์ไรส์เซอรเป็นส่วนประกอบเพื่อจะได้บำรุงผิวหน้าไปอีกนะจ๊ะ
*จำไว้ว่า ไม่ว่าเราจะเป็นสาวผิวหน้าแบบไหน จะอย่างไรก็ตาม อย่าล้างหน้าบ่อยเกินไปนะจ๊ะ ไม่งั้นสิวจะบุกมาเยือนจนได้ล่ะสิน๊า แง้ๆๆๆๆ Y0Y

Cream
          สาวผิวมัน อย่าลืมที่จะลงครีมที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ด้วยนะ  แต่ไม่ต้องเข้มข้นมาก ไม่งั้นจะเยิ้มไปกันใหญ่แถมได้น้องสิวแถมมาอีกหนึ่งจ้า
          สาวผิวแห้ง อันนี้ไม่ยากเลย เติมเข้าไป ขาดน้ำดีนักใช่มั้ย ดังนั้นควรหาครีมที่มีH2O,มอยเจอร์,วิตามิน อี.oilและบลาบลาบลา มาเติมซะให้เต็มที่
          สาวผิวผสม เหมือนเดิม โอโจ้ด้วย เลือกเอาตามใจชอบจ๊ะ ไม่ขัดศรัทธา ฮิฮิ
และที่สำคัญไม่ว่าสาวผิวหน้าแบบไหนๆอยากหน้าขาว ควรใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ albutin,vit B3,aha,vit c เป็นต้น และควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน กางร่ม หลีกเลี่ยงการออกแดด เพียงแค่นี้รับรองหน้าขาวใสชัวร์จ้า ไม่ต้องใช้ครีมแพงๆหรอก ลองหาอ่านส่วนผสมเอาจากครีมที่เราสนใจอ่ะนะจ๊ะ ^^

พอกหน้า
          สาวผิวมัน ต้องสูตรนี้ว่ากันว่าดีมาตั้งแต่สมัยคุณยาย  >> สูตรพองนาว  ใช้ดินสอพองสัก4-5ก้อน (หรือจะแล้วแต่พื้นที่ surfaceของแต่ละคนอ่ะจ้า เหอะๆ) บีบน้ำมะนาวสดๆเปรี้ยวๆลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันพอข้นๆ จากนั้นจัดการโป๊ะๆๆๆพอกๆๆๆ บนใบหน้าได้เลยจ้า แล้วทิ้งไว้แค่10-15นาที(มานั่งเล่นเนตก็หมดเวลาล่ะ)เท่านั้นเองน๊า แล้วก็มาล้างออกจ้า
          สาวผิวแห้ง สูตรนี้ hisoนะจ๊ะ  ใช้อะโวคาโด 1ผล เอาเนื้อมาปั่นๆๆๆๆๆ ให้ละเอียด พอได้เนื้ออะโวคาโดที่ละเอียดๆแล้วก็จัดการบีบน้ำมะนาวลงไปสัก ครึ่งผล แล้วคนให้เข้ากันแล้วก็ใส่น้ำผึ้งลงไปสัก2-3ช้อนชา จากนั้นจัดการพอกๆๆๆๆ ทิ้งไว้สัก15-20นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น และสบู่(ไม่งั้นน้ำมันจากอะโวคาโดจะคาอยู่ที่หนังหน้าอ่ะจ้า แฮ่ๆ)

Friday 21 October 2011

ไซนัสคืออะไร 3

ไซนัสคืออะไร 3

มาถึงตอนที่ 3 ของเรื่องไซันสแล้วนะคะ  ในตอนนี้เราจะมาพูดถึงชนิดของไซนัสคะ

          โรคไซนัสอักเสบ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

          1.ไซนัสอักเสบ แบบเฉียบพลัน คือไซนัสอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส สามารถหายได้ภายใน 7 วัน อาการทั่วไปจะเหมือนไข้หวัด มีไข้ เมื่อเชื้อลุกลามเข้าสู่ไซนัสก็จะมีอาการปวดจมูก ปวดกระบอกตา หรือแก้มข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง น้ำมูกและเสมหะจะมีสีเหลืองอมเขียวมากขึ้น อาจปวดกระดูกขากรรไกรบน หรือปวดฟันบนด้วย โอกาสที่การติดเชื้อจะลุกลามมีสูง จึงควรรักษาอย่างจริงจัง เพื่อลดโอกาสที่จะกลายเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรัง

          2.ไซนัสอักเสบ เรื้อรัง คือไซนัสอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย มีอาการมากกว่า 10 วัน และในช่วงที่เป็นนั้น อาการต่าง ๆ ไม่มีช่วงที่หายสนิท จะมีอาการปวดตื้อ ๆ มึนงง ร่วมกับคัดจมูกเรื้อรัง มีเสมหะเหนียวในลำคอตลอดวัน เพราะมูกจากไซนัสไหลลงมาทางจมูกนั่นเอง ประสิทธิภาพในการดมกลิ่น รับกลิ่นของจมูกจะลดลง และลมหายใจมีกลิ่นเหม็นสาเหตุที่ไซนัสอักเสบเรื้อรัง เป็นผลจากผู้ป่วยได้รับการรักษาไซนัสอักเสบระยะเฉียบพลันในเวลาที่น้อย หรือสั้นเกินไป หรือไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง หรือมีภาวะผิดปกติเป็นปัจจัยร่วมด้วย เช่น จมงูกอักเสบจากภูมิแพ้ พักผ่อนไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่ เป็นต้น

ยังไงก็รักษาตัวให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บนะคะ  "การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐคะ"


Saturday 15 October 2011

ไซนัสคืออะไร 2

ไซนัสคืออะไร 2

เมื่อเกิดไซนัสอักเสบเราจะสังเกตุได้อย่างไรก่อนไปพบแพทย์?

          ตามปกติไซนัสหรือโพรงอากาศทั้งหลายจะมีทางเชื่อมต่อกับโพรงจมูก  ซึ่งทางเชื่อมต่อนี้จะเปิดโล่งและน้ำเมือก (น้ำมูกใส ๆ) ที่มีกาสร้างอยู่ในไซนัสก็สามารถไหลระบายลงสู่โพรงจมูกได้ แต่ถ้าหากทางเชื่อมดังกล่าวเกิดการอุดกั้นขึ้นมาด้วยสาเหตุใดก็ตามแต่ส่วนใหญ่คนเราเมื่อหายใจไม่สะดวก  มีน้ำมูกอยู่ในจมูกก็มักชอบสูดจมูก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้ ทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในจมูกเข้าไปในโพรงอากาศของไซนัสทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น  ขณะเดียวกันเมื่อมีการอักเสบของเยื้อบุจมูกทำให้รูที่ติดต่อระหว่างโพรงอากาศกับจมูกตันขึ้น  น้ำมูกที่ผลิตในไซนัสไม่สามารถออกมาได้  ก็ทำให้เรามีอาการปวดบริเวณหน้าผากหัวคิ้ว  ระหว่างตาทั้งสองข้างหรือบริเวณแก้มได้ ทั้งหมดนี้เป็นอาการปวดจากไซนัสอักเสบ  ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเพียงพอ  รูเปิดระหว่างช่องจมูกและไซนัสมีการตีบตันเป็นมานานจนเรื้อรัง  การบวมของเยื่อบุอาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นริดสีดวงจมูกและ / หรือมีการอักเสบติดเชื้อเป็นหนองในไซนัสได้

          คนที่มีอาการจากภูมิแพ้ที่มีอาการจาม คัดแน่นจมูก และคันจมูกเป็นประจำ  มักจะทำให้ทางเชื่อมระหว่างไซนัสกับโพรงจมูกมีอาการบวมและเกิดการอุดตัน  นำไปสู่การเป็นสาเหตุอันหนึ่งที่จะเป็นโรคไซนัสอักเสบได้ จึงพูดได้ว่าทั้งโรคภูมิแพ้และไซนัสอักเสบเป็นโรคที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากเนื้องอกในจมูกหรือผนังกั้นกลางของจมูกคต หรือมีการเปลี่ยนแปลงความดันบรรยากาศภายนอกร่างกายทำให้มีการอุดกั้นของทางเชื่อมระหว่างไซนัสกับโพรงจมูกได้  และการที่มีอารมณ์แปรปรวน มีความเครียดสูง ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลงก็จะทำให้เกิดโรคไซนัสอักเสบ

          ช่วงนี้ก็มกล้หน้าหนาวแล้วนะคะ  ยังไงก็ดูแลตัวเองให้รอดจากอาการไซนัสอักเวบด้วยแล้วกัน  เพราะถ้าเป็นขึ้นมาแล้วละก็ ....  ทรมานสุดๆ ไปเลยแหละคะ (ทรายเองก็เป็นเหมือนกันคะ T_T)
         
          ในบทความครั้งหน้าจะเป็นชนิดของโรคไซนัสอักเสบนะคะ  อย่าลืมติดตามคะ  bye


Saturday 8 October 2011

ไซนัสคืออะไร

ไซนัสคืออะไร





          หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า "ไซนัส" มาแล้ว  แต่อาจจะมีหลายคนไม่รู้ว่า "ไซนัสคืออะไร"  วันนี้เราจะทราบได้กันแล้วว่า "ไซนัสคืออะไร"
          ทราบหรือไม่ว่ามนุษย์เราทุกคนล้วนมีไซนัสเป็นของตัวเองกันทั้งสิ้น  เรามาทำความรู้จักไซนัสก่อนดีกว่าว่าไซนัสคืออะไร  และถ้าหากมันมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นเราจะสังเกตุและปฏิบัติตนในการดูแลตัวเองได้อย่างไร 
          ไซนัสหรือโพรงไซนัส คือ โพรงอากาศในกะโหลกศีรษะของเรา  มีหน้าที่ทำให้กะโหลกศีรษะของเราเบาขึ้น  หรือเวลาที่เราพูดจามีเสียงก้องกังวานขึ้น (เพราะเป็นโพรงอากาศ)  ซึ่งไซนัสที่กล่าวไปข้างต้นนั้น  มีอยู่ในกะโหลกศีรษะของเราทั้งหมด 4 ตำแหน่ง (มีเป็นคู่ ๆ) ดังต่อไปนี้ คือ
  • บริเวณหน้าผากใกล้กับหัวคิ้วทั้งสองข้าง. เรียกว่า frontal sinus
  • บริเวณหัวตาทั้งสองข้าง. เรียกว่า ethmoid sinus
  • บริเวณโหนกแก้มสองข้าง. เรียกว่า maxillary sinus
  • บริเวณกะโหลกศีรษะใกล้ฐานสมอง. เรียกว่า sphenoid sinus
         และหน้าที่ที่สำคัญอีกอย่างคือ เยื่อบุของไซนัสและจมูก จะผลิตน้ำมูกเมือกใส ๆ วันละ 0.5-1 ลิตร เพื่อดักจับฝุ่นละออง  และสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ในอากาศที่เราหายใจเข้าไป  และเยื่อบุเหล่านี้จะมีขนเล็ก ๆ พัดน้ำมูกลงไปด้านหลังของจมูก ผ่านช่องคอ  ก่อนกลืนลงไปสู่กระเพาะอาหาร และจะถูกกรดในกระเพาะทำลายเชื้อโรคให้หมดไปอีกด้วย 

         ที่นี้เราก็รู้แล้วว่าไซนัสคืออะไร  จริง ๆ แล้วมันก็เป็นส่วน ๆ หนึ่งของร่างกายเท่านั้น  ถ้าไม่เกิดการอักเสบขึ้นมาก็จะไม่ได้มีปัญหาอะไร  แต่ถ้าเกิดอักเสบขึ้นมาละก็ ....  ติดตามบทความต่อไปเลยนะคะ