ภาวะไส้เลื่อน
เป็นโรคที่พบบ่อยในเพศชาย เป็นภาวะที่มีลำไส้บางส่วนเลื่อนออกมาตุงตรงบริเวณที่ผนังหน้าท้อง จะปรากฏให้เราเห็นเป็นก้อน บวม ที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งของผนังหน้าท้อง//ขาหนีบ ซึ่งจะมีลักษณะผลุบๆโผล่ๆ ไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด
สาเหตุที่ทำให้เกิดไส้เลื่อน
ส่วนใหญ่เเล้วสาเหตุที่ทำให้เกิดไส้เลื่อนนั่นคือ การที่ผนังหน้าท้องมีความอ่อนแอ/หย่อน ผิดปกติเมื่อมีการอ่อนแอของผนังบุช่องท้องเกิดขึ้นพร้อมกับความดันในช่องท้องมีมากจนเกิดผลักดันลำไส้ที่อยู่ภายในไหลเลื่อนทะลักเข้าไป จนทำให้โป่งออกมาจนเห็นเป็นก้อนๆ คลำได้ ผลุบๆโผล่ๆนั่นเอง
ประเภทของไส้เลื่อนนั้นมี3ประเภท ได้แก่
1.Umbilical Hernia //ไส้เลื่อนที่สะดือ
หรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า สะดือจุ่น >>จะมีอาการตั้งแต่แรกเกิดและสามารถหายไปได้เองก่อนที่จะอายุ2ขวบ
2.Inguinal Hernia //ไส้เลื่อนที่ขาหนีบ
ผู้ป่วยไส้เลื่อนประเภทนี้จะมีอาการผิดปกติของเยื่อบุผนังช่องท้องผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิดแต่อาการต่างๆจะมาปรากฏเมื่อโตเป็นหนุ่มสาวหรือเมื่อมีโรคต่างๆกระตุ้นทำให้มันเกิดขึ้นมา เช่นโรค ไอเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง
--ผู้ป่วยสามารถสังเกตอย่างชัดเจนได้เมื่อยืน ไอ จาม หรือเวลาที่ยกของหนักๆ โดยเห็นเป็นก้อนตุงที่บริเวณขาหนีบหรืออัณฑะ เวลานอนก้อนจะหายไป และไม่มีอารเจ็บปวดใดใด
3.Incisional Hernia//ไส้เลื่อนที่เกิดจากหลังผ่าตัด
จะเกิดขึนเมื่อผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดที่บริเวณช่องท้องแล้วทำให้ผนังช่องท้องเกิดหย่อนผิดปกติ เมื่อความดันในช่องท้องมากขึ้้น จึงผลักให้ลำไส้เคลื่อนตัวลุงมาอยู่ที่บริเวณนั้น
--ผู้ป่วยจะสามารถสังเกตได้เช่นเดียวกับอาการของไส้เลื่อนที่ขาหนีบ แต่ในกรณีของไส้เลื่อนหลังผ่าตัดนั้น เมื่อนอนหงายก้อนจะไม่หายไปเลย แต่จะมีขนาดเล้กลงเท่านั้นเอง จะดีขึ้นเมื่อได้รับการรักษาโดยวิธีการผ่าตัด
การรักษา
**หากเมื่อเราคลำพบหรือเจออาการไส้เลื่อนแล้ว ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และแยกออกจากโรคอย่างอื่นเช่น ฝี มะเร็ง เป็นต้น
ส่วนใหญ่แล้วหากแพทย์ตรวจเจอว่ามีภาวะไส้เลื่อน เพื่อจะพิจารณาการรักษาตามความเหมาะสมของอาการที่ตรวจพบ หากผู้ป่วยบางท่านคลำได้เป็นก้อน ขนาดเล็กไม่มีอาการเจ็บปวด แพทย์อาจจะให้สังเกตุอาการไปก่อน ซึ่งสามารถรอได้เป็นปีๆเลยทีเดียว แต่หากในรายที่คลำก้อนแล้วปวด และมีอาเจียนร่วมด้วยนั้นแพทย์จะต้องทำการผ่าตัดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นในภายหลังอย่างเร็วที่สุด
ที่มารูปภาพ : Google.com
No comments:
Post a Comment